นอกจากฝีมือการแสดงที่อยาก รู้จักตัวตนที่แท้จริง

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

เปิดโลกส่วนตัว ,พระเอกแดนสนธยา,มีปัญหากับ "อ๊อฟ,หยิ่ง..เรื่องมาก..ลึกลับจริงหรือ?





เปิดโลกส่วนตัว แอนดริว เกร้กสัน

8 กันยายน 2549 17:20 น.
ก้าว ขึ้นมาเป็นผู้จัดละครครั้งแรก
แถมยังควบหน้าที่พระเอกของเรื่อง
"สะดุดรัก" ด้วย เพียงแค่ละครออกอากาศ
ไปไม่กี่ตอน ก็ทำเอาแฟนละคร
ติดกันงอมแงม จนหลายคนลงความ
เห็นตรงกันว่า แอนดริว เกร้กสัน
หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : ๐ สิริรัตน์ แซ่เบ๊

๐ วริศรา วุฒิกุล

คนนี้ผ่านบททดสอบของการผัน

ตัวเองมาทำงานในอีกบทบาทไปได้อย่างฉลุย

ความรู้สึกของหนุ่มแอนดริวที่วันนี้กลายเป็น ผู้จัดอายุน้อยที่สุด

ด้วยวัย 27 ปี อย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง เพราะก่อนหน้านี้กิตติศัพท์

ความเป็นหนุ่มเก็บเนื้อเก็บตัวลือกระฉ่อน จะเป็นอย่างไร

รวมไปถึงหลากหลายเรื่องราวทั้งชีวิต ความรัก ที่หลายคนอยากรู้

"คม ชัด ลึก" ไม่รอช้าคว้าตัวมาพูดคุยกัน

งานเบื้องหลัง

ละครมีกระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

ถ้าไม่ได้นับคนรอบข้าง นับจากเวลาไปเดินเจอคนทั่วไปๆ ส่วนใหญ่

เขาบอกว่าดี


รู้สึกอย่างไร

รู้สึกดี ดีใจคนดูละครแล้วชอบ ตอนทำเราไม่ได้คาดหวัง คิดอย่าง

เดียวว่าทำให้เต็มที่ พอออกมาคนแค่เริ่มดู เราก็รู้สึกดีแล้ว

เรื่องมันคงมีอะไรให้เขาตามดูได้ เลยดู เราก็ดีใจ

มีนักแสดงออกมาให้สัมภาษณ์ชื่นชมแอนดริวด้วย

(หัวเราะ) รู้สึกขอบคุณ เพราะตอนถ่ายเหนื่อย ผมรู้ ผมทำงานหนัก

เขาต้องทำงานกันหลายรอบ เปลี่ยนผู้กำกับไปคนหนึ่ง


ละครออกอากาศได้ดูทุกตอนไหม

ไม่ ไม่ได้ดูตอนออกอากาศทุกตอน แต่ได้ดูในห้องตัดต่อแล้ว

คือตัดต่อเยอะ อยู่กับมันเยอะ จำได้ทุกตอน ว่าเป็นยังไง

เลยไม่อยากดูตอนออกทีวี รอฟังฟีดแบ็คอย่างเดียว

ก็มีบางฉากที่โดนเซ็นเซอร์ แต่ว่าเราก็จะทำให้คนดูดูรู้เรื่อง

คนดูจะไม่รู้ว่าถูกตัด แต่ตัวผมรู้ ซึ่งก็เข้าใจว่าเขาเซ็นเซอร์เพราะ

ไม่อยากให้เห็นความรุนแรงหรือคำหยาบ แม้ว่าจริงๆเราก็ปูเรื่องไว้

และจะมีคำตอบในตอนต่อๆ ไป


เห็นว่า ตัดต่อไป ออกอากาศไป

มันไม่ได้ขนาดว่า ตัดวันนี้ พรุ่งนี้ออก จะตัดวันนี้ อีก 2 อาทิตย์ถึง

ออกอากาศ ไม่อยากรีบ อยากใช้เวลาที่มีทำให้ออกมาดีที่สุด

ออกอากาศไปแล้ว ยังมีจุดที่เราอยากแก้ไขอีกไหม

พอมาเห็น มันก็คิดอีกว่า น่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ แต่ ณ เวลาที่ถ่าย

มันก็เต็มที่แล้ว มันมีปัจจัยอีกหลายๆ อย่าง พอคิดว่า มันเต็มที่แล้ว

เราก็ต้องยอมรับ


ให้เปอร์เซ็นต์ตัวเองในการเป็นผู้จัดครั้งแรก

(หัวเราะ) ผมคงขอไม่ให้เปอร์เซ็นต์ตัวเองดีกว่า อยากให้คนอื่น

ให้มากกว่า ถามว่าพอใจมากน้อยแค่ไหน ผมไม่เคยคิดที่จะบอกว่า

งานเราออกมาดีมาก สุดยอด ส่วนใหญ่เวลาทำจะคิดว่า

ทำให้เต็มที่ ผลจะออกมายังไงก็ไม่เป็นไร


วางแผนงานต่อไปแล้วหรือยัง

พล็อตเรื่องมีเยอะ เพียงแต่เราจะไปจับอันไหนออกมาให้มันจริงจัง

เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากจับงานต่อไป

เพราะงานเก่ายังค้างอยู่ เหลือตัดต่ออีกครึ่งเรื่อง อยากทำเป็นเรื่องๆ

ไป ไม่อยากตั้งหน้าตั้งตา ผลิตงานเยอะๆ

เล็งไว้บ้างหรือยัง ว่าเป็นแนวไหน

มีเยอะ แต่ก็ยังไม่ได้วางไว้ เหมือนตอนนี้ถ้าเราคิดไว้ แต่พอเรา

เสร็จงานตัดต่อ ช่วงเวลา สถานการณ์บ้านเมืองมันก็เป็นตัวแปร

ที่เปลี่ยนไป


อยากทำละครแบบไหน

พูดยาก เริ่มแรกเวลาเราดูหนัง ทีวี เราก็อยากทำไปหมด

แต่เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนไปหมด

ตั้งเป้าไว้ไหมว่า ปีหนึ่งจะต้องผลิตกี่เรื่อง

เคยคิดไว้ แต่มันก็ไม่เคยได้ ตั้งแต่สมัยที่เล่นละครแล้ว


เรื่องแรกค่อนข้างประสบความสำเร็จ คิดว่าจะส่งผลกับเรื่องต่อ

ไปอย่างไร

ก็คือถ้ามองกว้างๆ น่าจะมีผลกับเรื่องต่อไป ในแง่ของการติดต่อ

นักแสดงมาเล่น เขาก็จะรู้ว่า ไม่ได้เอาเขามาทิ้งๆข้างๆ

เรื่องที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ตัวละครแต่ละตัวที่เล่นออกมาชัด

แม้กระทั่งคนที่มีบทเล็กๆ น้อยๆ เลยคิดว่า น่าจะเป็นเครดิตที่ดี

ในเรื่องต่อไป


คำว่า ผู้จัด ในความคิดแอนดริว ต้องเป็นอย่างไร

คือถ้าเปรียบเทียบกับทุกอาชีพ มันก็คือเถ้าแก่ เหมือนเรา

ทำกิจการหนึ่งขึ้นมา เราฟอร์มทีม เป็นเจ้าของโปรเจคท์

เราต้องดูแลทุกอย่าง หากเราได้ทีมงานที่แข็ง ไม่ได้หมายความ

ถึงผมคนเดียว หมายถึงภาพกว้าง หากได้คนที่มาเป็นแขนขาเรา

ปล่อยเขาไปคิดได้เลย เราก็ไม่ต้องกังวลมาก แต่ถ้าเราได้ทีมงานที่อ่อน

เราก็ยังต้องคิดตรงนี้อยู่ มันก็จะงานหนักมาก เป็นเรื่องปกติ

ตัวผมเรื่องแรกด้วย บางคนทำมาเป็นสิบๆ ปี กว่าจะได้ทีมรู้ใจ

ผมเรื่องแรกก็ต้องมีการปรับ แต่ละคนมาจากหลายที่ก็ต้องปรับเข้าหากัน

ไม่ใช่ผมคนเดียว เป็นเรื่องปกติ


คิดว่าอะไรทำให้งานออกมาดี

ทีมงานทุกคน นักแสดงทุกคนตั้งใจทำงาน ผมรู้ว่าเขาเหนื่อยกัน

ถ้านับเวลาที่ทำงานก็ 7-8 เดือน ถือว่านาน แต่ถ้าเกิดพูดถึงเวลา

ที่ตัวผมทำงาน ตั้งแต่คิดเรื่องก็ 2 ปีแล้ว

จะเป็นผู้กำกับเองด้วยไหม

วันหนึ่งข้างหน้าถ้าพร้อม แต่เรื่องนี้งานมันโหลด เล่นเองด้วย ดูเองด้วย


งานเบื้องหน้า

กับงานแสดงล่ะเป็นอย่างไรบ้าง

ก็ยังอยากเล่นละครอยู่ ระหว่างที่ถ่ายทำเรื่องนี้ก็มีเข้ามา

แต่เราอยากทำให้มันเสร็จเป็นเรื่องๆ ไป กลัวว่าเดี๋ยวของตัวเองเละ

ของคนอื่นเละด้วย

เป็นผู้จัดเรื่องแรกทำกับช่อง 3 จำเป็นไหมว่า ต่อไปงานแสดง

หรือทำละครเรื่องใหม่ก็ต้องทำกับที่นี่


ณ เวลานี้เราทำอยู่กับเขา

มันก็คงเป็นมารยาท เราก็คงต้องคุยกับเขาก่อน แต่ว่าผมคิดว่า

ไม่มีผล และไม่มีใครรู้อนาคต ผมก็เห็นหลายๆ คนย้ายกันไป

ย้ายกันมา ผมก็คิดว่า มันไม่ใช่เรื่องโกรธกัน มันเป็นธรรมชาติ

ของวงการที่ต้องมีการสลับสับเปลี่ยน แล้วเดี๋ยวก็วนมาเจอกันอยู่ดี

ใจผมคิดไว้ว่า ตัวผมเองโตมาจากช่อง 7 วันหนึ่งก็อยากจะกลับ

ไปรับใช้คุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีด์) อยู่เมื่อมีโอกาส

ชีวิตส่วนตัว

เมื่อก่อนทุกคนจะรู้ว่า แอนดริว มีโลกส่วนตัวเยอะ พอมาเป็นผู้จัด


ต้องปรับบุคลิกหรือไม่ ยากไหม

มันลำบากเหมือนกัน จากเมื่อก่อนด้วยงานทำให้เราต้องอยู่กับตัวละคร

อาจจะเกี่ยวข้องกับคนเยอะก็จริง แต่มันไม่เหมือนกัน เป็นนักแสดง

ดูแลแค่ตัวละครตัวเอง บทที่ได้รับ พอมาเป็นโปรดิวเซอร์ หรือผู้จัด

คนเยอะ มากคนก็มากความ มันก็ต้องปรับตัวเองพอสมควร

ต้องพยายามพูดมากขึ้น คิดว่า เราอยากได้อะไรเราก็ต้องพูด

เมื่อก่อนเล่นอย่างเดียว เราเห็นคนอื่น แต่มันไม่เกี่ยวกับเรา

เราต้องรู้ว่า เราควรจะพูดไหม เราอยู่ของเราดีกว่า


ทัศนคติเปลี่ยนไปไหม

ไม่เปลี่ยน คิดว่าเหมือนเดิมนะ

นอกจากงานตรงนี้ทำอะไรอีกบ้าง

ก็ตัดต่ออย่างเดียว งานตัดต่อกินเวลาเยอะจริงๆ ไม่ได้ทำทั้งวัน

ทั้งคืน แต่ทำเป็นช่วงเวลานานๆ พอกลางวันพัก ตื่นขึ้นมาก็ไปดูต่อ

ผมกังวล ชอบทำเองหมดเป็นนิสัย ไม่รู้จักผ่อนคลาย

สมัยก่อนเล่นละครวันปิดกล้อง เสร็จแล้ว เราได้พักแล้ว

พอทำเองปิดกล้องคนอื่นเฮ แต่เราก็ยังไม่เสร็จ เรารู้ว่า

เรายังต้องทำอะไรต่ออีก

ชีวิตว่างๆ ทำอะไร

มันแล้วแต่ช่วงด้วย ช่วงไหนเราหัวโล่งๆ สบายใจ

เราก็คงจะพักผ่อน เที่ยว คงจะอ่านหนังสือ แต่ช่วงนี้พอนอนกลางวัน

ตื่นกลางวัน มันตื้อ เหมือนไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ พอเราจะไปเที่ยวไปอะไร

บางทีมันก็หงอยๆ ไปเรื่อยๆ อยู่นิ่งๆ ดีกว่า

แล้วถ้ามีเวลาว่างพักผ่อนจริงๆ ล่ะ

เที่ยว ดูหนัง อ่านหนังสือ คือบางทีเขาติดต่อละครมา

เอาเรื่องมาให้อ่านก็ต้องอ่าน แต่ถ้าเวลาเที่ยว ผมเป็นคนชอบ

ไปต่างจังหวัด ถ้ามีโอกาส ทุกครั้งที่ไปได้ก็อยากไป

แต่ก็ต้องชวนเพื่อนไปด้วย ส่วนใหญ่เพื่อนก็จะว่างไม่ตรงกัน

ถ้าจะให้พูดถึงตัวเอง แอนดริว เป็นคนอย่างไร

(หัวเราะ) มันคงลำบากถ้าจะให้บอกว่าตัวเองเป็นยังไง

มันคงต้องยกตัวอย่าง เช่น ถ้าผมเพิ่งรู้จักใคร ผมก็จะไม่ค่อยคุย

แต่ถ้าเริ่มรู้จักไปพักหนึ่งก็จะเริ่มรู้จักผม มันชัดมาก จะให้บอกตัวเอง

เป็นยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน


วางแผนชีวิตไว้ไหม

ไม่ คือผมไม่เคยวางแผนอะไรไว้ ก็มีคิดเล่นๆ ว่าจะทำโน่นทำนี่

แต่ไม่รู้เมื่อไร ไม่ได้กำหนดเวลา ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เด็กส่วนใหญ่พ่อแม่

ก็จะถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร เวลาคนถามผมจำได้ว่า ผมไม่รู้

ไม่มีในหัวด้วย เห็นคนอื่นตอบกัน ผมก็พยายามหามาตอบ

อะไรพูดแล้วดูดี ก็ตอบไป


เป้าหมายในชีวิต

ไม่ได้มอง ที่สุดก็คือ ตาย หรือก็เหมือนกับทุกคนอยากอยู่สบาย

ไม่อยากทำงานเยอะ แต่พอไม่ทำงานก็ดูตัวเองไม่มีค่า พอทำงาน

เยอะก็อยากจะพัก พอพักเยอะๆ ก็ดูตัวเองไม่มีค่าอีก

ทุกวันนี้ทำงานเพื่ออะไร

ทำเพราะอยากทำ ถ้าถามว่าทำเพื่ออะไร งานในวงการก็ทำเพื่อคนดู

ผมไม่ได้พูดเพื่อเอาใจอะไร แต่ถ้าจะทำงานในวงการก็ต้องเพื่อคนดู


เรื่องของหัวใจ

ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีข่าวเรื่องความรักเลย

ทำไมเหรอ...กลัวว่าจะรู้อีกที ลูกผมก็โต รับปริญญาแล้ว แบบนั้นเหรอ

มีคนที่คบหาดูใจกันอยู่ไหม

ไม่หรอก ถ้าได้เข้ามาอยู่กับผม จะรู้ว่า เวลาที่ทำงานไม่มีเวลาไปทำ

อย่างอื่นจริงๆ ทีมงานก็เห็น


แล้วอยากมีไหม

อยากเป็นเรื่องปกติ แต่มันยังไม่พร้อม รู้ว่าถ้าเราไปเริ่ม

สร้างความสัมพันธ์มันก็จะไม่มีเวลาให้กัน

เดี๋ยวก็คุยกันนิดหน่อยแล้วต่างคนต่างไป

ผมคิดว่า ผมคงมองหาอะไรที่จริงจังเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า

ไม่คิดว่า จะสนุกสนาน ฆ่าเวลาไปเมื่อไรจะพร้อมล่ะ

ผมไม่อยากจำกัดตัวเอง เหมือนเป็นค่านิยมที่บอกว่า

เรียนจบอายุเท่านี้ อายุเท่านี้มีครอบครัว อายุเท่านี้มีลูก

ผมไม่ได้ซีเรียสหรอก อาจจะเริ่มต้นมีตอนอายุ 40 ก็เป็นไปได้

แต่คนที่จะมาก็ต้องรับได้ด้วยนะ (หัวเราะ)

นิยามความรักของแอนดริวเป็นอย่างไร

มันคงเป็นเรื่องที่จะต้องอดทนกันเยอะ ถ้าเปรียบเทียบแค่คน

ที่จะมาทำงานด้วยกันนาน ยังต้องยอมปรับตัวเองเข้าหากัน

ต้องทนบางอย่าง ผมเลยคิด ว่าถ้าคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต

มันต้องเจอยิ่งกว่านั้น ต้องเจอกัน 24 ชั่วโมง คงต้องอดทนกันอีกเยอะ

เป็นเรื่องใหญ่กว่านี้อีก


มีสเปคไหม

สเปค (หัวเราะ) สูง ยาว ขาว หมวย ผิวคล้ำ ดำดี ไปเรื่อยๆ

ไม่ตายตัว บางทีเจอคนที่ใช่ ก็ใช่

ที่บ้านถามถึงไหม

ไม่หรอก เขาไม่ค่อยพูด ตั้งแต่สมัยเรียน แม่พูดแค่ว่า

จะมีแฟนก็ให้เรียนจบก่อน เขาไม่บังคับ ไม่ซีเรียส

ไม่มานั่งถามว่า แต่งงานเร็วๆ แม่อยากเห็นหลานแล้ว ไม่มี

เขาแหละ...แอนดริว เกร้กสัน

หนุ่มคนนี้ชื่อ "แอนดริว เกร้กสัน"
ชื่อจริง แอนดริว ชาลี เกร้กสัน
ชื่อเล่น แอนดี้
เกิด 1 กันยายน 2521
ผลงานเรื่องแรก ภาพยนตร์โฆษณาฮานามิ
ภาพยนตร์เรื่องกองร้อย 501 ริมแดง
ละครสิบหนึ่งเพื่อนกัน
ผลงานสร้างชื่อ ธรณีนี่นี้...ใครครอง

ที่มา : คม ชัด ลึก





    ความคิดเห็นที่ 1

    ผมว่าผมชอบเค้านะ
    ดูไม่ค่อย fake ดี


    จากคุณ : olivine - [ 10 ก.ย. 49 01:03:50 ]


    ความคิดเห็นที่ 2

    รักพี่แอนดริวเสมอ

    จากคุณ : หนูตกถัง (หนูตกถัง) - [ 10 ก.ย. 49 01:41:32 ]


    ความคิดเห็นที่ 3

    สู้ๆ แอนดริว คอยติดตามผลงานอยู่นะ

    จากคุณ : Tofu ja - [ 10 ก.ย. 49 02:08:42 ]


    ความคิดเห็นที่ 4

    ชอบแอนดริว

    จากคุณ : อุ่นเรือน - [ 10 ก.ย. 49 02:25:27 ]


    ความคิดเห็นที่ 5

    อ่านเพลินเลย ชอบตรงนี้ << งานในวงการก็ทำเพื่อคนดู ผมไม่ได้พูดเพื่อเอาใจอะไร แต่ถ้าจะทำงานในวงการก็ต้องเพื่อคนดู >>




    จากคุณ : drewberry - [ 10 ก.ย. 49 02:29:02 ]


    ความคิดเห็นที่ 6

    เป็นกำลังใจให้เสมอ
    กับคนคุณภาพคนนี้


    จากคุณ : nukanka - [ 10 ก.ย. 49 02:56:51 ]


    ความคิดเห็นที่ 7

    ชอบตรงนี้ >> เขาแหละ...แอนดริว เกร้กสัน

    i thought of the same phrase when i read this interview

    we will support you, Andrew


    จากคุณ : ... (AzwethinkweizT) - [ 10 ก.ย. 49 03:49:40 ]


    ความคิดเห็นที่ 8

    " ที่สุดก็ตาย "
    ถูกต้องเลย


    จากคุณ : Gonna - [ 10 ก.ย. 49 06:00:00 ]



htความคิดเห็นที่ 9

[[[แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากจับงานต่อไป อยากทำเป็นเรื่องๆ ไป
ไม่อยากตั้งหน้าตั้งตา ผลิตงานเยอะๆ ]]]

นี่หละนักแสดงรับงานทีละเรื่องตัวจริงเสียงจริง

ไม่เคยเป็นพระเอกคิวทอง งานตรึมอย่างดาราส่วนใหญ่


จากคุณ : amazing - [ 10 ก.ย. 49 09:06:14 A:58.9.142.

    ความคิดเห็นที่ 10

    เป็นกำลังใจให้เสมอ พี่แอนดริวบอกทำงานเพื่อคนดู คนดูอยากบอกพี่แอนดริวบ้าง ปีหน้าขอละคร 2 เรื่อง ไม่เอา 2 ปี เรื่องน่ะคะ

    จากคุณ : chocolate_spice cake - [ 10 ก.ย. 49 09:27:48 ]


    ความคิดเห็นที่ 11

    ชอบมานาน... และจะชอบตลอดไป

    จากคุณ : Girl@Lib - [ 10 ก.ย. 49 09:30:42 ]


    ความคิดเห็นที่ 12

    "ที่สุดก็คือ ตาย หรือก็เหมือนกับทุกคนอยากอยู่สบาย ไม่อยากทำงานเยอะ แต่พอไม่ทำงานก็ดูตัวเองไม่มีค่า พอทำงานเยอะก็อยากจะพัก พอพักเยอะๆ ก็ดูตัวเองไม่มีค่าอีก "

    นายพูดถูกคร้าบ


    จากคุณ : ทำไมต้องล็อกอิน - [ 10 ก.ย. 49 10:36:38 ]


    ความคิดเห็นที่ 13

    ชอบนะถือว่าพัฒนาคุณภาพละครไทย

    ขณะที่ปกติละครไทยคือพายเรือวนในอ่าง
    คือละครเรื่องเดิมเพียงแต่เปลี่ยนชื่อเรื่อง กับตัวแสดงเท่านั้น

    ดู เรื่องไหนๆ ก็เหมือนเดิมๆ บทเดิมๆ ดูแล้วเดาได้ไม่ยากว่าจะเกิดอะไรต่อไป อยากจะประนามพวกผู้จัดและคนสร้างมากๆ ว่าทำอะไรกับละครไทย อยากให้หันไปดูละครจากที่อื่นบ้าง ว่าเขาพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว


    จากคุณ : ANUTA - [ 10 ก.ย. 49 10:38:12 ]


    ความคิดเห็นที่ 14

    สะดุดรักสนุกดี ชอบแอนดี้ มากมาย อิมด้วย และนักแสดงทุกๆคน

    จากคุณ : 48 (ที่รองรีด) - [ 10 ก.ย. 49 11:03:59 ]


    ความคิดเห็นที่ 15

    เป็นกำลังใจให้เสมอ

    จากคุณ : มุกอันดามัน - [ 10 ก.ย. 49 11:31:04 ]


    ความคิดเห็นที่ 16

    เราว่าเรื่องนี้แจ๋วนี้นะ พลอตเรื่องก็แปลกดีม่ะเหมือนน้ำเน่าช่องเจ็ดอ่ะ แจ๋วๆ งานนี้เราให้ผ่านนะ

    จากคุณ : ขนมปังกับนมสด - [ 10 ก.ย. 49 16:12:00 ]


    ความคิดเห็นที่ 17

    ดูเรื่องนี้ยิ่งชอบเข้าเป็นกอง
    คนไร เก่งไปหมด
    แต่พี่ดริว อวบไปนิดนะคะ
    อยากเห็นพี่ดริว ผมสั้นๆเหมือนเดิม ทรง"รักเกิดในตลาดสด" น่ารักดี


    จากคุณ : ^Oh_ScholeSSmith^ - [ 10 ก.ย. 49 16:54:19 ]


    ความคิดเห็นที่ 18

    รักมากค่ะ คนนี้ ^^

    จากคุณ : Hot Gal In A BigCity - [ 10 ก.ย. 49 20:43:31 ]


.........................................<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.....................................

แอนดริว พระเอกแดนสนธยา
โดย มติชน วัน อาทิตย์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2549 08:51 น.

เสือ ยิ้มยาก…พระเอกเรื่องมาก…หนุ่มลึกลับ…
ดาราผู้มีโลกส่วนตัวสูง…มองดูหยิ่ง….
ดังแล้วนิ่ง ฯลฯ อีกจิปาถะที่เป็นคุณสมบัติที่
ใครหลายต่อหลายคนมองพระเอกหนุ่ม
แอนดริว เกร้กสัน"

แต่พอได้สัมผัสตัวตนผ่านจากคำบอกเล่าของเขา
คุณสมบัติต่างๆ ที่หลายคนมองถูกทำลายไปพลัน
เพราะการสนทนาในครั้งนี้ มีคำตอบว่าทำไมหลาย
คนถึงมองเขาเช่นนั้น

หน้าออกฝรั่งอย่างนี้ เกิดที่ไหน?

แอนดริว - ผมเกิดที่กรุงเทพฯ บ้านอยู่ย่านสุขุมวิท
พ่อเป็นชาวอังกฤษ แม่เป็นคนไทย แม่จะเลี้ยงแบบไทย
ส่วนพ่อจะเลี้ยงแบบฝรั่ง ผมเลยได้อย่างละครึ่ง
ผมพูดภาษาอังกฤษเป็นก่อนภาษาไทย
แต่ด้วยความที่เรียนโรงเรียนไทย มีเพื่อนเป็นคนไทยหมด
จะได้คุยภาษาอังกฤษก็แค่กับพ่อและเพื่อนพ่อ
สุดท้ายก็เลยหนักพูดภาษาไทย ผมมีพี่ชายอีกคน
อายุห่างกันปีเดียว ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันตามประสา
พี่ชายน้องชายในวัยเด็ก

พี่กับแอนดริวใครหล่อกว่ากัน?

แอนดริว - (หัวเราะ) ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อเลย
ส่วนพี่ชายจะหล่อกว่ามั้ย คงแล้วแต่คนชอบ
ทุกวันนี้พี่ชายก็ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย
ยังใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย ซึ่งผมอยากให้เค้าไปอยู่กับพ่อแม่
ที่อังกฤษมากกว่า

ตั้งแต่เข้าวงการมา ไม่ค่อยเห็นพูดถึงครอบครัวเท่าไหร่?

แอนดริว - ใช่ ครับ เพราะผมอยากให้เค้าอยู่กันสงบๆ สบายๆ
ผมไม่รู้ว่าผมเป็นตัวหนักใจหรือเปล่า มันเหมือนกับว่าถึง
ลูกจะโตยังไงพ่อแม่ก็ยังไม่เลิกห่วง ซึ่งก็เป็นธรรมดา
และเราเป็นลูกคนเล็ก ผมชอบคิดเสมอว่า เราจะเกเรยังไง
ก็ยังมีพี่อยู่ พูดง่ายๆ คืออย่าตั้งความหวังไว้ที่เรา ยังมีพี่ชาย
ยังมีคนให้ชื่นใจอยู่นะ ทั้งที่เราเองก็ไม่ได้ทำตัวเละเทะ
แต่ชอบคิดอย่างนั้น ตัวผมเองมาอยู่ข้างนอกเอง
และคิดว่าพ่อแม่ก็ไม่ได้ต้องการเงินจากลูกมาเลี้ยง
เพียงแต่ว่าความรักเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงออกต่อกัน
ก็ทำให้รู้แล้วว่าเรารักพ่อแม่ และพ่อแม่รักเรา
ผมคิดว่าตรงนี้ที่สำคัญกว่า

ตอนเด็กๆ ซนมั้ย?

แอนดริว - ผม เป็นยุคแรกๆ ที่ลูกครึ่งเป็นความแปลก
โดนล้อบ้างนิดหน่อย แถมมีความซนที่ชนิดไปโรงเรียน
กลับมาบ้านทีไรเสื้อขาวมักจะเลอะ ความซนที่มีไม่ถึงกับ
เป็นหัวโจก แต่อาจจะเป็นเพราะตัวผมใหญ่เลย
กลายเป็นหนึ่งในตัวนำ

มีแววเป็นดาราตอนไหน?

แอนดริว - แม่ เล่าให้ฟังว่าเด็กๆ ผมเคยถ่ายโฆษณา
ยาสำหรับเด็ก และพอโตมาก็มีเรียกไปเทสต์หน้ากล้อง
แต่ด้วยความที่เป็นเด็กขี้อาย ไปเทสต์แล้วไม่ได้เรื่อง
แต่สุดท้ายก็มาได้ทำตอนโตอายุ 13 เรียนอยู่
ร.ร.ปทุมคงคา หัวเกรียนๆ เลิกเรียนก็ไปเล่นเกมอยู่ตามร้าน
มีโมเดลลิ่งเทียวมาติดต่อขอเบอร์โทรศัพท์
ที่ยอมให้เบอร์เพราะฝันพร่ำไปเรื่อยกับเพื่อน
ว่าจะโด่งจะดัง หลังจากนั้นเค้าก็ติดต่อไปเทสต์
งานแล้วได้ถ่ายโฆษณาฮานามิ จากนั้นก็ได้งาน
โฆษณามาเรื่อยๆ เงินที่ได้จากงานถ่ายแบบโฆษณา
ก็ให้แม่เก็บ และขอบางส่วนไว้ใช้

แล้วเข้าวงการเต็มตัวได้อย่างไร?

แอนดริว - พอ ดีพี่พจน์ อานนท์ มาถ่ายรายการ 4+1
ถึงจะเท่" ที่โรงเรียน ซึ่งตอนนั้นพี่พจน์ดังมาก ตอน
ที่เค้ามารุ่นพี่หลายคนแต่งตัวกันหล่อรอกันเต็มเลย
กะว่าต้องเข้าตากันบ้างล่ะ แต่โดนที่ผม ทั้งที่ตอนนั้น
ที่เจอกับพี่พจน์ผมกำลังยืนกินโดนัทเต็มปากอยู่เลย
จากนั้นก็เริ่มถ่ายแบบ และเล่นหนังเรื่องแรก
กองร้อย 501 ริมแดง" ได้เจอพี่บิลลี่ โอแกน
ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำหรับผมในการเล่นหนัง
แล้วก็มีละครเรื่องแรก เมื่อหมอกสลาย" เล่นแทน
จอห์น ดีแลน" ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท เพราะด้วยความที่พื้นเพ
ชีวิตเหมือนกัน พ่อเป็นคนอังกฤษ แม่เป็นคนไทย
เป็นลูกครึ่งเหมือนกัน อายุไล่ๆ กัน โตมาคล้ายๆ กัน
เป็นนายแบบด้วยกัน มีปัญหาหลายๆ อย่างคล้ายๆ กัน
จอห์นเป็นคนที่เหมือนตัวเองเป๊ะๆ

สนิทกันขนาดนี้ แสดงว่าการจากไปของ จอห์น"
มีผลต่อตัวเองมาก?


แอนดริว - ความรู้สึกตอนนั้น ไม่เค้าหรือผมคนใดคนหนึ่ง
ต้องไป ถ้าเค้าไม่ไป ผมก็ต้องไป ซึ่งผมคิดว่าคนที่ไปควร
จะเป็นผมมากกว่า ละครเรื่องที่จอห์นเล่น พี่ตุ๊กตา-จิตรลดา
(ดิษยนันทน์) ติดต่อผมเล่นก่อน ซึ่งก่อนหน้าก็เคยติดต่อมา
2-3 เรื่อง แต่เรื่องนี้พี่เค้าพูดกับเราดีจนผมลำบากใจ
และตอนนั้นผมยังติดเล่นหนังอยู่ เลยบอกกับพี่ตุ๊กตาว่า
ผมขอยังไม่เล่นได้มั้ย และผมก็ไปขอให้จอห์นมาเล่นละคร
เรื่องนี้แทน และจอห์นก็เล่น ละครก็ดัง และมันก็ตาย
ผมมีความรู้สึกว่าถ้ามันไม่เล่นมันคงไม่ตาย (น้ำเสียงเครือ)

นับจากช่วงเวลานั้นผ่านไป เหมือนเปลี่ยนจาก
คนที่สดใส กลายเป็นคนที่มีมุมส่วนตัว?


แอนดริว - คงไม่ใช่ว่าเปลี่ยนไปเยอะ แต่ด้วยความที่เรา
เสียเพื่อนไป และเมื่อนานวันเข้า ผมเองก็จริงจังกับงาน
มากขึ้น เมื่อเล่นละครเยอะขึ้น เริ่มรู้สึกว่าอยากทำให้ดีกว่านี้
ไม่รู้วิธีจัดการ จนมารู้จักกับพี่แดง-ธัญญา(วชิรบรรจง)
ตอนที่เล่นละครช่อง 3 ด้วยกัน พี่แดงก็แนะนำให้รู้จัก
พี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ ก็ได้คุยกันเรื่องการแสดง เรื่องงาน
ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วที่ผ่านมาเราผิดทางกับการทำงาน
อะไรที่ไม่เข้าใจก็จะช่วยอธิบายให้ฟัง พอมีคนแนะนำ
ชี้ทาง เราเลยเริ่มรู้ว่าการทำงานเราควรเป็นยังไง แต่เรา
ก็ไม่มีประสบการณ์เท่าพี่เค้า เราเลยต้องพยายามให้มาก

ช่วงนี้ดูเหมือนห่างๆ พี่แดง-พี่อ๊อฟ?

แอนดริว - คง เพราะด้วยงาน เพราะพี่เค้าก็ทำงานของเค้า
เราก็ไม่อยากจะก้าวเข้าไป ก็เลยห่างกัน แต่ยังคงคุยกัน
วันหนึ่งข้างหน้าถ้าอะไรมันลงตัวก็คงโคจรมาร่วมงานกัน
เพราะวงการนี้มันไม่ได้กว้างมาก

อยู่วงการร่วม 15 ปี คิดว่าตัวเอง สิ่งรอบข้าง ช่วงวัย
ทัศนะความคิด เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร?


แอนดริว - เมื่อ ก่อนผมไม่รู้ว่าโตขึ้นเราจะเป็นอะไร
และไม่ได้คิดว่าจะได้อยู่วงการจนทุกวันนี้ แต่ก็เหมือน
ชีวิตถูกจัดเตรียมไว้ ซึ่งผมเป็นคนทำอะไรค่อนข้างจริงจัง
ซีเรียสกับงาน นั้นคงเป็นส่วนหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเอง
ยังเหมือนเดิม และรู้สึกว่าตัวเองหัวแข็ง ทุกวันนี้ก็
ยังหัวแข็ง ซึ่งเป็นการหัวแข็งกับตัวเอง มันเป็นนิสัยตั้งแต่เด็ก

แต่ก่อนจะเห็นรอยยิ้มของแอนดริวบ่อย แต่
ปัจจุบันเห็นแต่สีหน้าเรียบเฉย?


แอนดริว - ยอม รับว่าจริง เป็น ถ้าพูดง่ายๆ คงจะเป็น
เพราะช่วงวัย จากเด็ก เราโตขึ้นมีเรื่องชีวิตมากขึ้น
เริ่มซีเรียสกับชีวิตมากขึ้น จริงจังกับงาน ซึ่งผมเองก็
ไม่อยากพูดอะไรมาก คิดว่าแค่นี้คงชัดเจน

จริงมั้ยที่ว่ายิ่งโตยิ่งลึกลับ?

แอนดริว - อาจ จะไม่ค่อยมีใครได้เจอผม หรือมี
ข่าวอย่างที่คนอื่นเค้ามี เลยดูลึกลับ และส่วนหนึ่งผม
ไม่ค่อยชอบเอาเรื่องทางบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องกับเบื้อง
หน้าของ ผม ซึ่งผมอยากให้เบื้องหลังของผมเค้าอยู่กัน
อย่างมีความสุขสงบของเค้าต่อไป

ถูกโจษขานว่าเป็นพระเอกเรื่องมาก?

แอนดริว - ก็คงแล้วแต่จะมอง เพราะเราคงจะไปแก้
ความคิดคนอื่นไม่ได้

ต่อจากนี้วางแผนงานแสดงไว้อย่างไรบ้าง?

แอนดริว - ก็ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เยอะ ณ เวลานั้น
เราสะดวกแบบไหน ซึ่งมีปัจจัยหลายๆ อย่างมาประกอบ
ทั้งเรื่องบท เรื่องคิว อื่นๆ อีกสารพัดในเวลานั้น เลย
ทำให้เป็นแบบอย่างที่ผมเป็นอยู่ทุกวันนี้

แล้วเรื่องความรักล่ะ?

แอนดริว - ด้วยอาชีพของการเป็นนักแสดง อยู่ในวงการนี้
เวลาไม่ได้มีเหมือนคนทำงานประจำ คงจะหาคนที่มีเวลา
เจอกันลำบาก นอกจากคนในอาชีพเดียวกัน ซึ่งตอนนี้ผมยังไม่มี

สิ่งที่ไม่ได้ถามแล้วอยากพูดถึง?

แอนดริว - ขอขอบคุณแฟนละครที่ยังเหนียวแน่นและ
ติดตามผลงานของผมทั้งที่ผมหายไปนาน ขอบคุณครับ
สุดยอดมาก

แม้จะมีมุมส่วนตัวจนดูลึกลับ จับต้องไม่ถึง แต่ แอนดริว"
ก็ยังมีอีกหลายมุมให้ได้สัมผัส


อุปสรรคคืองานที่ต้องเผชิญ

ทั้ง ที่ยังเป็นพระเอกเนื้อหอม แต่ แอนดริว เกร้กสัน"
ขอก้าวข้ามมาลุยงานผู้จัด โดยตั้งบริษัท มานา โปรดักชั่น
จำกัด ผลิตผลงานละครเรื่องแรก สะดุดรัก ป้อนช่อง 3

เจ้าตัวเปิดใจถึงปัจจัยที่ทำให้เลือกมาสู่อาชีพผู้จัดว่า


เป็นเพราะมีเรื่องอยากทำ ก็เลยลองคุยกับผู้ใหญ่
โชคดีที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ต้องขอขอบคุณพี่ยุ้ย(อรอุมา
มาลีนนท์) กับคุณอัมพร(มาลีนนท์) ที่ให้โอกาส

ถูก มองว่าสนิทกับ คุณยุ้ย" ลูกนายประวิทย์ บอสช่อง 3
เลยได้รับสิทธิ์พิเศษ แอนดริวแจง

คงไม่ถึงขนาดที่ว่าได้รับ
สิทธิ์พิเศษกว่าใคร เพราะในแง่การลงทุน ถ้าเค้าไม่มั่นใจเค้าคง
ไม่มาเสี่ยงกับอะไรที่เค้าไม่เห็นทางเลย ผมคิดว่างานที่ผมไป
เสนอก็มีดีอยู่ประมาณนึง เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของการขายฝัน
ขายความคิด เค้าเองคงมั่นใจเราในระดับหนึ่งว่าน่าจะทำงาน
ที่โอเคได้

แต่ก็ไม่วาย มีข่าวเม้าธ์และถูกจับตามองในฐานะผู้จัดคนสนิท
ลูกนาย

มีหลายรูปแบบ บางคนก็ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี
แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา อยู่วงการนี้มานาน
เจอข่าวเยอะๆ ก็พอจะเห็นว่าเป็นอย่างไร

ถามถึง วิธีการตั้งรับอุปสรรค ผู้จัดมือใหม่แย้ม

บอกตรงๆว่าเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอถ้าเกิดจะอยู่
ในวงการนี้ทำงานแบบนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา
เป็นหนึ่งในงานที่เราจะต้องเผชิญ"

การทำงานผู้จัดในครั้งนี้ พระเอกหนุ่มยอมรับว่าเหนื่อย
เพราะต้องพยายามทำทุกอย่างให้ดี ให้สมกับที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ

ถ้า ให้เทียบการทำละครเป็นการศึกษา สะดุดรัก อยู่ชั้นไหน

แอนดริวกล่าวว่า ถ้าเป็นชั้นประถมก็เหมือนดูถูกงานตัวเอง
จะเทียบเป็นปริญญาเอกก็เหมือนให้เกียรติงานตัวเองเกินไป
จะเทียบเป็นการศึกษาในระดับไหนก็แล้วแต่ ผมมีความรู้สึก
เหมือนว่าเข้าเรียนวันแรก ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น
รู้จักผู้คนมากขึ้น และยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปแบบไม่มีวันจบ
ทำละคร ก็อยากทำให้ดีที่สุด ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องผลิต
ละครปีละเท่านั้นเท่านี้ แต่อยากทำงานที่เป็นศิลปะ ซึ่งผมก็คิด
ที่จะเสนอละครเรื่องต่อไปอยู่ ส่วนแนวก็อยากเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ซึ่งหลายคนมองว่าผมเป็นคนเครียดจะทำละครแนวคอมเมดี้
ได้เหรอ สำหรับผม ผมคิดว่าทำได้ ในคนทุกคนมีหลายมุมใน
ตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าจะมีอะไรนำ อะไรน้อยเท่านั้นเอง

ส่วนงานแสดง เจ้าตัวยืนยัน ยังไงก็ไม่คิดวางมือ...
แฟนๆ สบายใจได้




ประวัติส่วนตัว
ชื่อเล่น : แม่เรียก แอนดี้ เพื่อนเรียก ดรูว์ คนส่วนใหญ่เรียก ดริว

ชื่อจริง : แอนดริว ชาลี เกร้กสัน

วัน/เดือน/ปีเกิด : 1 ก.ย. 2521

บิดามารดา : พ่ออังกฤษ แม่ไทย

พี่น้อง : มีพี่ชาย 1 คน ชื่อ เฮนรี่ โรบิน เกร้กสัน"

การศึกษา : ชั้นอนุบาลร.ร.สวนดอกไม้ ประถมฯ ร.ร.กันตบุตรพร้อมพงษ์ มัธยมฯ ร.ร.ปทุมคงคา จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะรัฐศาสตร์


อ่านข่าวทั้งหมดของ มติชน ได้ที่นี่


    ความคิดเห็นที่ 1

    ชอบแอนดริวตั้งแต่โฆษณาฮานามิ กับไมโล
    เป็นดาราคนแรกที่ชอบมั้ง แก่แดดจริงเรา ตอนนั้นป.6 เอง


    จากคุณ : ในวันที่ฟ้าใส ~* - [ 17 ก.ย. 49 00:37:49 ]


    ความคิดเห็นที่ 2

    ถ้าเป็นชั้นประถมก็เหมือนดูถูกงานตัวเอง จะเทียบเป็นปริญญาเอกก็เหมือนให้เกียรติงานตัวเองเกินไป จะเทียบเป็นการศึกษาในระดับไหนก็แล้วแต่ ผมมีความรู้สึกเหมือนว่าเข้าเรียนวันแรก ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น รู้จักผู้คนมากขึ้น และยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปแบบไม่มีวันจบ


    ชอบประโยคข้างบนครับ ให้สัมภาษณ์ดีจัง


    จากคุณ : เมื่อวันฟ้าหม่น - [ 17 ก.ย. 49 02:20:28 ]


    ความคิดเห็นที่ 3

    [[[ ทั้งที่ยังเป็นพระเอกเนื้อหอม แต่ แอนดริว เกร้กสัน" ขอก้าวข้ามมาลุยงานผู้จัด ]]]

    เคยคิดอยากให้พี่แอนดริวเป็นอย่างพระเอกคนอื่น
    คือรับงานแสดงไปเรื่อยๆ เล่นกับค่ายไหนดังก็อยากให้เล่นอีก
    เราจะได้มีละครดูสักปีละ 2 เรื่อง

    แต่ตอนนี้แน่ใจแล้วพี่แอนดริวเค้ามีแนวคิดเป็นของตัวเอง

    ไม่ใช่รับงานตามผู้จัดเสนอ แต่ -- เพราะมีเรื่องอยากทำ -- เลยลุยเป็นผู้จัดเสียเอง

    เฮ้อ !!!! แฟนๆเลยต้องรอ 2 ปี : เรื่อง

    เรื่องหน้าขอเอาใจช่วยให้เร็วกว่านี้ สักกะติ๊ดนะคะ พี่ดริว


    จากคุณ : amazing - [ 17 ก.ย. 49 03:07:23 A:58.9.145.106 X: TicketID:113121 ]


    ความคิดเห็นที่ 4

    สิ่งที่ไม่ได้ถามแล้วอยากพูดถึง?

    แอนดริว - ขอขอบคุณแฟนละครที่ยังเหนียวแน่นและติดตามผลงานของผมทั้งที่ผมหายไปนาน
    ขอบคุณครับ สุดยอดมาก

    *************************************
    อยากบอกว่าแฟนๆก็รู้สึกว่า ผลงานพี่แอนดริว สุดยอดมาก เหมือนกัน

    เอาลิงค์และรูปบางส่วนมาฝาก

    ขอบคุณ คุณ pick69 ด้วยค่ะ

    http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03ent01170949&day=2006/09/17

    แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 49 06:41:14





    จากคุณ : drewberry - [ 17 ก.ย. 49 06:39:09 ]


    ความคิดเห็นที่ 5

    เด็กน้อย !!!! ใครจะรู้ว่าโตมาจะเก่งอย่างนี้




    จากคุณ : drewberry - [ 17 ก.ย. 49 06:43:40 ]


    ความคิดเห็นที่ 6

    กับคุณแม่และพี่ชายที่รัก




    จากคุณ : drewberry - [ 17 ก.ย. 49 06:45:40 ]


    ความคิดเห็นที่ 7

    เริ่มเข้าวงการมั้ง โตไม่ทันพี่แอนดริวน่ะ




    จากคุณ : drewberry - [ 17 ก.ย. 49 06:48:37 ]


    ความคิดเห็นที่ 8

    เพราะเป็นผู้จัดคนใหม่ เลยอวบขึ้นๆ ตอนนี้ลดลงยังน๊า




    จากคุณ : drewberry - [ 17 ก.ย. 49 06:51:44 ]


    ความคิดเห็นที่ 9

    พี่กฤษณ์กับน้องเพียงใน LISA




    จากคุณ : drewberry - [ 17 ก.ย. 49 06:54:16 ]


    ความคิดเห็นที่ 10

    ทำละครเรื่องแรกก็กล้าฉีกแนว สวนกระแสเดิมๆ ของบ้านเราแล้ว

    น่านับถือครับ


    จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) - [ 17 ก.ย. 49 07:55:55 ]


    ความคิดเห็นที่ 11

    อยากบอกว่าเป็นนักแสดงที่ชอบมาก เป็นตัวของตัวเองดี

    จากคุณ : มุกอันดามัน - [ 17 ก.ย. 49 09:34:58 ]


    ความคิดเห็นที่ 12

    ชอบๆๆ

    จากคุณ : ซอด้วง - [ 17 ก.ย. 49 12:26:43 ]


    ความคิดเห็นที่ 13

    เค้าดูเยือกเย็นดีนะ..

    จากคุณ : ปอมซัง - [ 17 ก.ย. 49 13:48:34 ]


    ความคิดเห็นที่ 14

    ชอบทุกเรื่องที่แอนดริวเล่น
    และยังคงสนับสนุนในฐานะผู้จัด
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ


    จากคุณ : phatsorn_t - [ 17 ก.ย. 49 14:36:39 ]


    ความคิดเห็นที่ 15

    โชคดีนะที่ไม่ค่อยโดนนักข่าวมาวุ่นวายกับชีวิต

    จากคุณ : โหวต - [ 17 ก.ย. 49 18:57:19 A:58.64.101.70 X: ]


    ความคิดเห็นที่ 16

    เขาไม่ธรรมดาจริงๆนะ จริงๆ ขอบอก

    จากคุณ : clementina - [ 17 ก.ย. 49 21:08:38 ]


    ความคิดเห็นที่ 17

    ชอบแอนดริวมากๆ รอดูผลงานต่อไป

    จากคุณ : Tofu ja - [ 17 ก.ย. 49 21:28:30 ]


    ความคิดเห็นที่ 18

    สุดยอด
    เห็นด้วยกับ #2 กับ #4 ค่ะ


    จากคุณ : เสาร์สนุก - [ 17 ก.ย. 49 22:40:29 ]


    ความคิดเห็นที่ 19

    ลงชื่อ เป้นแฟนคลับ

    จากคุณ : เกือกซ่าสีชมพู - [ 18 ก.ย. 49 08:58:49 ]


    ความคิดเห็นที่ 20

    ดีจังพี่ดริวให้สัมภาษณ์ยาวๆ ชอบอ่านมาก

    ย่อหน้าสุดท้ายเหมือนพี่ดริวจะทำคอเมดี้เรื่องต่อไป

    ให้กำลังใจค่ะเชื่อว่าพี่ต้องทำได้ดีแน่นอน เลิฟ เลิฟ


    จากคุณ : ideal_idol - [ 18 ก.ย. 49 16:02:51 ]


    ความคิดเห็นที่ 21

    ชอบมาตั้งนานแล้ว


    และจะติดตามผลงานตลอดนะ..


    จากคุณ : หมีพูห์บลูเบอร์รี่ - [ 18 ก.ย. 49 18:02:42 ]


    ความคิดเห็นที่ 22

    ชอบจริงๆจังๆ มา 8 ปีแล้วนะ ตั้งแต่ทางผ่านกามเทพ

    ชอบคนไม่ผิดจริงๆ ชอบ แอนดริว ที่เป็นแอนดริว แบบนี้แหละ

    จะติดตามผลงานไปตลอดจ๊ะ


    จากคุณ : ราศีพิจิก - [ 18 ก.ย. 49 20:41:12 ]


ความคิดเห็นที่ 23

แอนดริวแสดงได้ดีมาก เล่นเรื่องไหนดูเป็นธรรมชาติและเป็นตัวละครนั้นจริงๆ

ไม่รู้สึกว่าแอนดริวจะเรื่องมาก เราว่ามีสไตล์ดี ชอบบบบบบบบ

ขอบคุณสำหรับรูปค๊าบ


จากคุณ : Belive555 - [ 18 ก.ย. 49 21:46:49 ]

<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<...............................................>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.
"แอนดริว เกรกสัน" หยิ่ง..เรื่องมาก..ลึกลับจริงหรือ?
(จากทีวีพูล)

ข้อความ : ถ้าจะมีสิ่งใดบ่งบอกความเป็นตัวตนของพระเอกลูกครึ่ง
มาดขรึมที่ชื่อ "แอนดริว เกรกสัน" ได้ก็เห็นจะเป็นเรื่องกระบวนการทาง
ความคิด ซึ่งเจ้าตัวพยายามแสดงออกมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ
จนบางครั้งอาจจะดูแข็งกระด้างระคายเคืองหูคนฟังไปบ้าง
ก็สุดแท้แต่ใครจะมองผ่านมุมไหน
แต่อย่างไรเสีย ทุกสิ่งทุกอย่างเจ้าตัวเขาบอกว่า มันมาจากใจจริงทั้งนั้น
...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพูดจาตรงไปตรงมา
กระทั่งการทำตัวลึกลึบซับซ้อน...รักสันโดษ...
แม้บางครั้งตัวตนตรงนี้อาจจะ ถูกแปรเจตนาไปว่า
"แอนดริว" วางมาดหยิ่งผยอง...มีพฤติกรรมที่บ่งบอกว่า
เป็นคนเรื่องมาก...
แต่เจ้าตัวเขาก็บอกอีกว่า ไม่มีเจตนาให้ใครคิดอย่างนั้น
แต่จะเจตนาหรือไม่อย่างไร เราลองมาวิเคราะห์ผ่าน
บทสัมภาษณ์ของเจ้าตัวเขาดีกว่า

- ชีวิตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง
"ไม่ค่อยจะมีอะไรที่เป็นพิเศษครับ ช่วงนี้ชีวิตก็คือการทำงาน"

- รับละครทั้งหมดกี่เรื่อง
"ตอนนี้ที่รับไว้แล้วมีสองเรื่อง คือ "12 ราศี" ของพี่อ๊อฟ
แล้วก็ "มือปืนพ่อลูกติด" ของพี่ต้อ นอกนั้นก็มีติดต่อเข้ามาบ้าง
แต่ก็เป็นการพูดคุยกันคร่าวๆ ผมยังไม่บอกแล้วกัน เอาเป็นว่าเมื่อถึง
เวลาเปิดกล้องเจอกันตอนนั้นน่าจะเป็นอะไรที่ชัวร์กว่า
ถ้าบอกไปเดี๋ยวเกิดไม่ได้เล่นขึ้นมา จะกลายเป็นว่าผมโม้
ผมว่าตอนนี้ผู้จัดฯ ที่เขาอยากให้ผมไปร่วมงานด้วย
เขาก็คงรู้ว่าผมกำลังทำงานเรื่องอะไรอยู่ และเขาก็คงรู้
ว่าละครเรื่องนี้จะถ่ายจบเมื่อไหร่ ถึงได้ติดต่อผมมา"

- เหตุผลที่รับเล่น 12 ราศี
"ละครเรื่องนี้พี่อ๊อฟเขาคิดไว้นานแล้ว แต่มันคงยาก
เพราะเป็นเรื่องพล็อต เขาคิดเอง ตัวเขาเองก็ต้องทำงาน
อย่างอื่นด้วย เรื่องนี้เขาติดต่อผมตั้งแต่สมัยที่เขายังไม่ได้ทำเลย
คือเขาจะเล่าให้ฟังมาตลอด เราก็จะรู้พล็อตเรื่องมาตลอดเช่นกัน
คือเขาเล่าเยอะ เพราะเขามีพล็อตเรื่องในหัวเยอะมาก
ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว มีเรื่องอื่นๆด้วย
พอสรุปว่าเขาจะทำเรื่องนี้ เขาก็บอกให้ผมไปคิดมา
ว่าอ่านพล็อตเรื่องแล้วรู้สึกอะไร ยังไง เกิดว่าบางที
มันน่าจะเป็นอย่างนี้นะ ผมก็จะบอกเขาไปว่า ไม่ดีนะ
น่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า หรือบางอย่างถ้าดีแล้ว
ผมก็จะบอกไปว่าก็ดีเหมือนกัน ก็คุยๆกันครับ เขามาเล่าให้ฟัง
ไม่ได้ซีเรียสนะ หมายถึงแบบไปเจอกัน กินข้าวกัน
พี่คิดอย่างนี้ออก มีอย่างนี้นะ ผมก็จะช่วยเสริมว่า
พี่อย่างนี้ต่อสิ เป็นอันนี้ไป คุยกันสนุกๆ แต่ว่ามันเป็นงาน
มันได้เรื่องสำหรับเขา เพราะเขาเป็นคนที่มีวัตถุดิบเยอะ
เขาก็จะเล่าให้เราฟัง บางอย่างเราชอบ บางอย่างเราไม่ชอบ
ถ้าเราไม่ชอบ เราก็จะบอกไปว่าไม่ชอบ ก็เหมือนคุยกันสนุกๆ"

- สำหรับเรื่องนี้ ได้แสดงความเห็นอะไรไปบ้าง
"คุยกันตลอดล่ะครับ ทุกคนเขาก็คุย เฮ้ย!...พี่ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ๆล่ะ
ผมก็ได้ยินเขาคุยกัน เป็นเรื่องปกติ"

- แล้ว "พี่อ๊อฟ-่พงษ์พัฒน์" ให้แนวคิดอย่างไรมาบ้าง
"ปกติพี่อ๊อฟเขาก็มีความคิดเกี่ยวกับตัวละครหรือว่างานอะไร
ของเขาอยู่แล้ว ครับ พอได้ร่วมงานกับเขา ผมก็รู้สึกดี
เพราะปกติก็ได้แต่ปรึกษา แต่ไม่เคยได้ร่วมงานกัน
นี่ได้มาร่วมงานกันในฐานะที่เขาเป็นผู้กำกับฯ ก็รู้สึกดีครับ
เพราะพี่อ๊อฟเป็นคนทำงานแล้วทำจริงๆ"

- บทที่ได้รีบฉีกไปจากเรื่องที่เคยรับมาไหม
"ละครแต่ละเรื่องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะใส่อะไรเพิ่ม
มันเป็นเรื่องที่เราจะต้องคุยกับผู้กำกับฯ ของแต่ละเรื่องอีกทีหนึ่ง
เผื่อเขามีภาพอะไรออกมาใหม่ๆ หรือตัวนี้ออกมาแบบนี้ดีไหม
นั่นเป็นเรื่องที่ต้องคุยกันครับ"

- ชอบแนวนี้ไหม
"ไม่รู้ บางทีเราอาจจะชอบก็ได้ แต่เราไม่รู้ตัว แต่พี่อ๊อฟเขาชอบ
แนวนี้ด้วยมั้งครับ"

- พล็อตเรื่องเป็นยังไงบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย
" ไม่รู้ครับ ละครเขาเป็นละครพล็อต และตอนที่เขาตัดสินใจทำ
เขายังพล็อตไม่เสร็จ แต่เขามีโครงเรื่องคร่าวๆไว้แล้วแค่นั้น
ซึ่งถ้าเกิดเขาคิดอะไรออก แล้วมันดีกว่าที่เขามีอยู่ เขาก็อาจ
จะเปลี่ยนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นอะไรคร่าวๆ เท่านั้น
ทีมงานส่วนใหญ่เคยเจอกันมาแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร"

- ได้ข่าวมาว่าละครเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นเยอะมากใช่ไหม
" ครับ แต่ก็สนุกดีครับ และก็มีบ้างที่เหนื่อย ละครทุกเรื่อง
มันก็คล้ายๆ กันนะครับ"

- แล้วมีฉากที่เสี่ยงอันตรายไหม
" อันไหนที่มันเสี่ยงมากๆ พี่อ๊อฟเขาก็ไม่ให้เล่น อันไหนที่เรา
ทำได้ เราก็บอกเขาไปว่าทำได้ อันไหนที่เราทำไม่ได้ เราก็บอกพี่
ผมทำไม่ไหวหรอก แต่ถ้าจะให้ผมลองดูก่อนก็ได้นะ ผมยินดี
แต่คือพี่อ๊อฟเขาก็จะเอาเซฟไว้ก่อน เพราะไม่มีประโยชน์ที่
จะไปเสี่ยง ผมว่าคำว่านักแสดงทุกคนอยากเล่นเองทั้งนั้น
แต่โตแล้วต้องมีลิมิต ไม่ใช่เป็นเด็กๆ คึกคะนอง โดยไม่คำนึง
ถึงความปลอดภัยของตัวเอง เราต้องรู้ว่าอะไรทำได้ หรือไม่ได้
ไม่ได้ก็บอกเขาไปเลยว่าไม่ได้ อย่าไปเสี่ยง จะทำให้งานเขาล่าช้า
ไปเปล่าๆ เกิดเราเป็นอะไรขึ้นมา"

- มีแอ็คชั่นผิดคิวบ้างไหม
" มีนิดๆ หน่อยๆ ครับ บางสถานที่มันมีเหล็ก มีแง่ มีมุมเยอะ

โดนกันหลายคน ผมก็มีโดนบ้าง แต่ไม่มีอะไรร้ายแรง
ก็เห็นมีบางคนร้ายแรงเหมือนกัน ไม่รู้พี่อ๊อฟจะให้เล่าหรือเปล่า.
..ต้องถามเขาเอง เผื่อเขาไม่ให้เล่า เป็นสตั้นแมน"

- แฟนๆ จะติดภาพ"แอนดริว" รับแต่บทสนุกๆ
" มันไม่ใช่ตลกที่ผม ตลกโดยเหตุการณ์มากกว่า
หรือไม่ละครไทยช่วงนี้ก็มีแต่แนวนี้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
เหมือนกัน แต่ผมก็มีละครเครียดเหมือนกันนะ พี่ไม่ได้ดูใช่ไหม
ได้ดูแต่ละครตลกสิ"
- สำหรับ "มือปืนพ่อลูกติด" แบ่งคิวอย่างไรไม่ให้ชนกัน
(จริงๆอยากจะข้ามคำถามนี้เลยนะ เพราะมันเป็นอดีตไปแล้ว
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เอาเถอะนะ)
" เรื่องนี้ จ-อ-พ ส่วนของพี่ต้อก็ขอเขาอ่านบท
บอกเขาว่าถ้าเกิดผมไม่ได้อ่านบทก่อนแล้วเกิดเวลาไปถ่าย
ผมจะไม่มีเวลามาอ่านเลย เพราะว่าถ่ายทีเดียวสองเรื่อง
ก็เลยขอเขาอ่านก่อน แล้วพออ่านเรียบร้อยมันก็จะไม่มีปัญหาอะไร
แต่ตอนนี้ผมยังไม่มีคิวต้องถ่าย ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเขาไปถ่ายกันหรือยัง"

- มีหลักในการรับงานอย่างไร
" ไม่เคยจำกัดว่าต้องรับทีละเรื่อง ไม่ได้เป็นเรื่องที่แพลนเอาไว้
แต่มันเป็นอย่างนั้นมาเอง ก็ไม่รู้ว่าทำไม"

- ส่วนใหญ่เวลารับงาน ได้ปรึกษาใครบ้าง
" ปกติรับเล่นละคร ผมก็จะปรึกษาพี่อ๊อฟอยู่แล้ว หมายถึงว่าในเรื่องอื่นๆ
ด้วยนะครับ ไม่ใชเฉพาะเรื่องนี้"

- เคยสเป็คไว้ไหมว่าบทไหนอยากเล่นมากที่สุด
" ไม่ได้สเป็คไว้ อะไรน่าสนใจมาก็อันนั้นแหละครับ"

- "แอนดริว" เรื่องมากไหม (คำถามนี้น่าเบื่อสุดๆ)
" ผมไม่รู้ว่าเรื่องมากของแต่ละคนคือแค่ไหน ผมว่ามันไม่เท่ากัน
แล้วแต่คน แต่ผมคิดว่าผมไม่ ผมก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ต้น
เมื่อก่อนสมัยที่ผมให้พี่คนหนึ่งดูคิวให้ ผมจำได้ว่าเขาก็ถูกต่อว่าๆ
เรื่องมาก แต่ผมพอใจวิธีการดูแลของเขา เราก็ดูมาว่าเขาต้อง
ดูแลอะไรเราบ้าง เราก็นำมาดูแลตัวเอง ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเอง
ไม่มีใครไม่ดูแลตัวเองหรอก เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ต้องทำ"

- มีคนบอก "แอนดริว" หยิ่ง ชอบทำตัวลึกลับ
" ต้องถามพวกพี่สิ ถามผมว่าตัวเองเป็นคนยังไง ใครก็ต้องบอกว่า
(ตัวเอง) เป็นคนดี เพราะฉะนั้นอย่าถามผมเลย ผมไม่พูดเข้าข้าง
ตัวเองหรอก ไปถามคนรอบข้าง ถามคนอื่น มันจะได้ความจริง
ส่วนที่เขาว่าผมมีโลกส่วนตัวสูง อันนี้ก็แล้วแต่คนจะเชื่อหรือไม่
พี่ก็รู้จักผม พี่ก็ถามตัวเองดูสิ ผมเป็นคนประเภทเวลาทำงานก็ทำงาน
ไม่รู้สินะ ไม่เป็นไรหรอก แล้วแต่จะคิด ไม่อยากมาแจกแจงให้ใครฟัง
มันเป็นเรื่องในกองถ่าย แฟนๆ เขาก็ดูแต่งาน งานไม่ดีเขาก็ว่า
เขาพูดดีก็ดี เขาพูดไม่ดี ก็ไม่ดี"

- พูดถึงข้อดี-ข้อเสียของตัวเอง
" เพอร์เฟ็คท์ ๆ ไม่รู้สิ พี่มากองถ่ายน่าจะเห็นว่าผมทำงานอย่างเดียว
ผมแทบไม่คุยกับใครเลย แต่นอกเวลาอีกเรื่องหนึ่ง อย่างพวกรุ่นใหญ่ ๆ
เขาจะคุยอะไรกันได้ เพราะว่าเขาเล่นมาขนาดไหนแล้ว เขาเก่งแล้ว
สำหรับเราก็อย่างที่บอก ยังไม่รอดเลย ผมทำงานก็ต้องใช้สมาธิ
เห็นใจกันบ้างเถอะครับ วันหนึ่งถ่าย 20-30 ฉาก จะให้ผมมานั่งคุย
ผมทำไม่ได้หรอก
ผมพูดไม่เก่ง (..พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ... อันนี้แซวเล่นนะ
เพลงของ ab normal ไง) บางทีคุยกัน พี่ๆ สื่อมวลชนเข้าใจผม
ก็ไปลงตามนั้น แต่คนอื่นเขาอ่านแล้วเขาอาจจะไม่เข้าใจ
ไม่เคลียร์ เพราะบางทีคำพูดเป็นตัวหนังสือมันไม่กระจ่าง
เหมือนกับมาคุยกันอย่างนี้
กลายเป็นว่าผมพูดอะไรก็กลัวไปหมด ว่าจะถูกไหม ใช่หรือเปล่า
ผมพูดไม่เก่งนะ กลายเป็นผมซวยไป...ใช่ไหม สรุปก็คือใครจ้างผมก็ไป
และก็ต้องรับผมให้ได้ ว่าผมเป็นคนพูดไม่เก่งครับ"

....มนุษย์ซุกซ่อนความน่ามหัศจรรย์ไว้ให้ค้นหา นั่นคือความคิด...
.เมื่อไหร่ที่คุณเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์....คุณก็จะเข้า ใจเองว่า
ผู้ชายคนนี้เขามิได้เป็นผู้วิเศษ (...ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ที่จะเสก
ประสาทงามให้เธอ ไม่มีฤทธิ์เดช....
อันเขียนเอง ไม่มีในสัมภาษณ์นะ อย่าเข้าใจผิด...อิอิ)
หรือเป็นคนผิดปกติแต่อย่างใด เพียงแต่เขากำลังแสดงความ

เป็นตัวตนของเขา
และคิดแบบเป็นตัวของตัวเอง...อย่างที่น่าจะยกย่องต่างหากล่ะ!!!
(...เห็นด้วยไหม...)


......................>>>>>>>>>>>>>>>........................<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<,,
มีปัญหากับ "อ๊อฟ" จริง "แอนดริว" โต้เคลียร์แล้ว




ที่มา : คม ชัด ลึก
ภาพประกอบ : คม ชัด ลึก

แอนดริว เกร็กสัน ยอมรับมีปัญหากับ "อ๊อฟ" พงษ์พัฒน์
จริง แต่เคลียร์กันแล้ว แจงเหตุเรื่องมาก มีโลกส่วนตัวสูง
เข้าถึงยาก เพราะไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ยันยัง
ไม่มีแฟน มีเมื่อไรพร้อมเปิดตัว

ที่ผ่านมา แอนดริว นับเป็นพระเอกที่ไม่ค่อยให้สัมภาษณ์
หรือหากให้สัมภาษณ์ก็มักจะเข้าข่าย ถามสิบคำ
ตอบแค่คำเดียว อีกทั้งยังเป็นพระเอกที่มักจะถูกมอง
ว่าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง อยู่ในกองถ่ายก็ไม่ค่อย
มีมนุษยสัมพันธ์ เรื่องมาก ขนาดร่วมงานกับรุ่นพี่ที่
สนิท และให้ความเคารพนับถืออย่าง "อ๊อฟ พงษ์พัฒน์
วชิระบรรจง ในละคร "12 ราศี" ก็ยังมีปัญหาทะเลา
ะ ถึงขั้นปัจจุบันไม่กินเส้นกัน วันนี้เขาจะไขปริศนา
เกี่ยวกับตัวตน ความรัก และข่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้
กระจ่างชัด

"ยอมรับว่ามีปัญหา ใครบ้างที่ทำงานด้วยกันแล้วไม่มี
ปัญหา แต่ผมก็เคลียร์กับพี่อ๊อฟแล้ว ผมมีอะไรผมก็
จะคุยกับพี่อ๊อฟตลอด ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
แล้วแต่พี่จะมองว่าจะมองมุมไหน ผมตอบเคลียร์หมด
แล้ว" แอนดริวแจกแจง



และยอมรับว่าทุกวันนี้เวลารับงานเขาไม่ค่อยได้ขอคำ
ปรึกษากับอ๊อฟ และ "แดง" ธัญญา เหมือนเมื่อก่อน

"เมื่อก่อนเรื่องการรับงานแต่ละครั้ง ผมจะถามพี่แดง
พี่อ๊อฟ เยอะมาก แต่ตอนนี้พี่เขาทำเองแล้ว เขาก็ทำ
ถ่ายละคร ทำงานของเขา แล้วผมจะกล้ากวนเขาเหรอ
ส่วนงานละครกับพี่อ๊อฟ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เกือบ
จะได้ร่วมงานกันอีกแล้ว แต่พอดีคิวไม่ว่าง" แอนดริว
กล่าวเปิดใจ

ถามต่อเกี่ยวกับข่าวที่ระบุว่า เขาเป็นคนเรื่องมาก
จนผู้จัดเอือมระอา

แอนดริวบอกว่า อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนเขายังเป็นเด็ก
ตอนนี้เขาโตขึ้น มาตรฐานการรับงานก็อาจจะเพิ่ม
มากขึ้น แต่ทั้งนี้เขาก็เชื่อว่านักแสดงทุกคนก็ต้อง
เลือกบท เลือกเรื่องที่จะรับมาอันดับแรก ผมคิดว่า
ผมก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ หรอก

"ผมไปห้ามปาก ห้ามความคิดของคนอื่นไม่ได้หรอก
ผมคิดว่าตัวเองไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป ผมยังเหมือนเดิม
รับแบบนี้มาตลอด อย่างเมื่อก่อนพี่พจน์ (พจน์ อานนท์)
เขารับงานให้ผม เขาก็เลือก หรืออย่างตอนที่พี่ตุ๊กตา
(จิตรลดา กัลย์จาฤก) ดูงานให้เขาก็เลือกนะ ที่เปลี่ยน
ไปอาจจะเป็นเพราะ เมื่อก่อนผมยังเด็กๆ เล่นๆ แต่ตอน
นี้มันไม่ใช่ เราคงจะเล่นๆไม่ได้แล้ว ส่วนที่บอกว่าผมมี
โลกส่วนตัวสูง ผมไม่รู้ว่าผมมีโลกส่วนตัวหรือเปล่า
ไม่รู้ว่าแค่ไหนสูงไม่สูง แต่อาจจะเข้าถึงยาก" พระเอกคน
ดังแจกแจง

ถามถึงเรื่องหัวใจ พระเอกลูกครึ่งไทย-อเมริกัน บอกว่า
ยังไม่มี หากมีเมื่อไรไม่ปิดบังอย่างแน่นอน


"ถ้ามีแล้วจะพามาให้ดู อย่างที่ข่าวออกไปว่าผมคบคนนั้น
คนนี้ไม่จริงเลย ส่วนเรื่องสเปค ผมว่าตั้งไม่ได้หรอก
เห็นครั้งแรกแล้วชอบ คุยแล้วอาจจะไม่ชอบก็ได้
เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา อาจจะเริ่มชอบตั้งแต่หน้าตา
หรือไม่ใช่หน้าตาก็ได้ เรื่องความรัก หรือเรื่องเพศตรงข้าม
มันเป็นเรื่องพื้นฐานของคนทั่วโลก" พระเอกลูกครึ่งกล่าว
พร้อมกับเสริมว่า เรื่องมีครอบครัวที่บ้านไม่เคยเร่งรัด

ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาว่า ผู้จัดละคร และสถานี มักจะ
คาดหวังว่าละครที่เขาแสดงจะต้องได้รับการต้อนรับที่ดี
เรตติ้งกระฉูด แอนดริวบอกว่า ถือว่าเป็นการให้เกียรติ
แต่เขาก็ไม่เคยบอก หรือการันตีว่าละครทุกเรื่องที่เขา
แสดงจะต้องเรตติ้งดีทุกเรื่อง และไม่มีใครบอกได้ด้วย
ว่าการตอบรับจะเป็นอย่างไร

1 ความคิดเห็น:

ธาริต กล่าวว่า...

เพื่อนสนิทเล่าให้ฟังว่า.. เขาไปเที่ยวกับแฟนแถวหัวหินเมื่อหลายปีก่อน แล้วไปนั่งกินร้านส้มตำ-ไก่ย่างริมถนน (ถนนที่มีซอยตรงไปลงทะเลได้แห่งนึง!) เห็น"แอนดริว"เดินมากับสาวคนหนึ่ง ออกมาจากรีสอร์ทหรือบ้านพักริมทะเล (เวลาประมาณบ่ายโมง)

เขาก็มองจากที่นั่งกินส้มตำออกไปเจอพอดี (ห่างไม่เกิน 100 เมตร) แอนดริวก็มองตรงมาพอดี!! ก็เลยโดนแอนดริวแจกกล้วยว่า.. "มอง ค_ว อะไรล่ะ!! แถมพูดซ้ำ 2 รอบ!! (เหมือนจะให้ "เรียนริมฝีปาก" เอาเองว่า กูพูดว่าอะไร!!)

ซึ่งเพื่อนก็งงหนักมาก..ทั้งที่ไม่ได้มองนาน แค่ไม่เกิน 1 วินาทีเท่านั้น!! เขาเลยพูดกับแฟนว่าเสียความรู้สึก! เคยติดตามผลงานมาแต่เด็ก (ตอนนั้นเพื่อนผมอายุก็เลยเลข 4 เข้าไปแล้ว!!) ใครช่วยบอกทีว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่..!!??








คลังบทความของบล็อก